โดเรมี

2008-11-28 at 18-03-55

คุณเข้าร้านเทปครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?ร้านสุดท้ายที่คุณเข้าคือร้านอะไร?คุณซื้อ CD เพลงครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ และเป็นแผ่นของใคร?

คำถามเหล่านี้อาจจะตอบยากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคที่หลายคนไม่ยอมเสียเงินซื้อเพลง และพฤติกรรมการซื้อเพลงไม่จำกัดอยู่แต่กับการจ่ายเงินเพื่อวัตถุที่จับต้องได้อีกต่อไป แม้แต่ตัวผมเองที่ยังซื้อเพลงฟังเป็นแผ่นอยู่ค่อนข้างสม่ำเสมอ เมื่อสำรวจความทรงจำของตัวเองก็พบว่าตลอดช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เริ่มฟังเพลงอย่างจริงจังในช่วงวัยรุ่น มีร้านเทป, ร้าน CD หลายร้านที่เคยได้อุดหนุนอยู่เรื่อยๆ ก่อนที่แต่ละร้านจะล้มหายตายจากกันไปตามเวลา แต่ไม่มีร้านไหนที่อยู่ในดวงใจเท่ากับร้าน “โดเรมี”

ก่อนที่ความทรงจำจะเลือนลางไปกว่านี้ ขอบันทึกเรื่องราวของชีวิตส่วนหนึ่งของผมกับร้านโดเรมีเอาไว้ที่นี่

ถ้าจำไม่ผิดผมรู้จักร้านโดเรมีประมาณปีพ.ศ. 2536 หรือ 2537 ในช่วงที่ต้องไปเรียนพิเศษที่สยาม ก่อนหน้านั้นมีเหตุการณ์สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิตของผมเกิดขึ้น คือการค้นพบกรุเพลงยุค 70s ของคุณพ่อคุณแม่ในห้องเก็บของที่บ้าน อันเป็นตัวจุดชนวนความอยากรู้อยากเห็นให้เด็กชายวัยรุ่นคนหนึ่งได้ใช้เวลาในยุค 90 ฟังเพลงของยุค 70 มากกว่าเพลงที่เพื่อนรอบข้างชอบฟังกัน ซึ่งการค้นพบกรุเพลงครั้งนั้นคงผ่านเลยไป ถ้าผมไม่สามารถติดตามหาซื้อเพลงของศิลปินอีกหลายรายในยุคนั้นมาฟังเพิ่มเติมได้ สมัยนั้นร้าน CD ใหญ่ๆ ก็มี Tower Records บนสยามเซนเตอร์ แต่ร้านนั้นจะเน้น CD มากกว่าเทป เงินค่าขนมของผมในสมัยมัธยมปลายคงไม่สามารถซื้อ CD ซึ่งมีราคาปกเฉลี่ยอยู่ประมาณ 450 บาทได้บ่อยนัก จึงต้องอาศัยเทป ซึ่งราคาอยู่ประมาณ 90 บาท นั่นทำให้ผมต้องมาตามหาเทปที่ร้านโดเรมี

ตอนนั้นร้านโดเรมีเป็นห้องที่อยู่ในซอยข้างธนาคารกรุงเทพ เมื่อเดินเข้าไปจะพบกล่องเทปที่มีแต่ปกกองเป็นตั้งๆ (ยุคนั้นเทปยังเป็นใหญ่กว่า CD) แยกหมวดหมู่ตามประเภทดนตรี อัลบั้มของศิลปินคนเดียวกันจะถูกติดสกอตเทปไว้ด้วยกัน ศิลปินที่ผลงานเยอะๆ จะมีตั้งใหญ่มากจนน่าเกรงขาม เรียกว่าใครคิดจะมาเหมาเพลงทุกชุดของศิลปินสักรายหนึ่ง จะสามารถเห็นภาพรวมได้ทันที บางช่วงที่ผมตั้งใจจะ “ขุด” ศิลปินบางราย ก็จะเริ่มจากการหาข้อมูลว่ามีอัลบั้มไหนบ้างที่มีคุณค่า น่าฟัง น่าเก็บ น่าค้นหา แล้วไปซื้อเทปที่ร้านโดเรมี จำได้ว่าเทปม้วนแรกที่ซื้อที่ร้านโดเรมีเป็นผลงานของ Peter Gabriel ชุด So

จุดเด่นจริงๆ ของโดเรมีอยู่ที่คนขาย ผมเรียกเธอว่า “ป้าโดเรมี” หรือ “ป้า” มีเพื่อนหลายคนเรียกเธอด้วยชื่ออื่นๆ เช่น “เจ๊โด”, “ป้าโด” เป็นต้น ความน่าทึ่งของป้าโดเรมีคือ เธอจะรู้เรื่องเพลงทุกแนวที่คุณถาม และยังจำได้ด้วยว่าลูกค้าคนไหนชอบศิลปินคนไหน ตามสะสมเพลงของใครอยู่ พร้อมแนะนำได้อย่างฉับไว ดูไม่เข้ากับ look ของผู้หญิงที่แต่งตัวเหมือนคุณครูประชาบาลคนนี้เลย

หลังจากการซื้อเทปม้วนแรก ก็มีม้วนต่อๆ มา ผมวนเวียนกลับไปอุดหนุนร้านโดเรมีอย่างสม่ำเสมอ นอกจากซื้อเทปและ CD แล้ว บางทีก็ซื้อวีดีโอคอนเสิร์ต, ซื้อตั๋วคอนเสิร์ต เช่น คอนเสิร์ต ไอ.ซี.ยู. ของป้าง หลายครั้งผมเข้าไปขอโปสเตอร์นักร้องจากที่ร้าน บางอันต้องรอให้ป้าแกะลงมาก่อน ซึ่งแกก็จะเก็บไว้ให้เสมอ บางครั้งที่ไม่รู้จะซื้ออะไร หลังจากเดินวนรอบร้านแล้ว ก็ยืนคุยกับแกเฉยๆ เรื่องสัพเพเหระเป็นครั้งคราว ในที่สุดร้านโดเรมีก็กลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตม.ปลายของผมไป พร้อมๆ กับกับรถไมโครบัส สายป.อ.พ. 6 ที่นั่งไป-กลับ ระหว่างบ้านกับสยามเป็นประจำ จนเมื่อได้เข้าเรียนปริญญาตรีที่จุฬาฯ ในปี 2539 ก็มีเหตุให้เอาใจออกห่างจากร้านโดเรมีบ้าง เพราะหันไปปันใจให้แผงเทปที่สามย่านบ่อยขึ้น และบางครั้งก็ขึ้นรถกลับบ้านจากตรงจุฬาฯ โดยไม่ได้เดินผ่านมาถึงสยาม แต่ก็มีหลายครั้งที่เจอป้าโดเรมีบนรถเมล์ในช่วงสายๆ ก่อนจะแยกกันไป ผมเข้าเรียน ป้าไปเปิดร้าน

ผ่านมาถึงปี 2541 ตอนนั้นรถไฟฟ้า BTS ยังไม่เปิดให้บริการ ร้านโดเรมีย้ายมาอยู่ใกล้กับร้านข้าวมันไก่ ริมถนนใหญ่ ตีนสะพานบันไดเลื่อนที่เดินขึ้นรถไฟฟ้า ด้วยความที่ไม่รู้ว่า BTS จะฮิตขนาดไหน ผมถามป้าว่า “ย้ายมาตรงนี้ มีสะพานบังอย่างนี้ จะขายดีเหมือนเดิมไหมครับ?” ป้าตอบผมว่า “ถ้าเรายังเจอกันบ่อยเหมือนเดิมก็แปลว่ายังขายดีเหมือนเดิม” คำตอบอันกินใจนั้นทำให้ผมกลับไปอุดหนุนร้านโดเรมีบ่อยขึ้น ตอนนั้นผมชอบพูดติดตลกกับเพื่อนว่า “ถ้าไม่ได้ป้าโดเรมี ตอนม.ปลายเราคงเป็นเด็ก RS ไปแล้ว” (ใครจำได้ว่านักร้อง RS ช่วงปลายยุค 2530 แต่งตัวยังไงคงเข้าใจว่ามันน่ากลัวขนาดไหน)

หลังจากผมเรียนจบ BTS เปิดให้บริการและนำลูกค้ามาให้ร้านนี้มากขึ้น แต่ชีวิตผมก็มีเหตุให้ผ่านไปสยามน้อยลงเรื่อยๆ แต่ทุกครั้งที่แวะไปสยาม ผมจะหาเรื่องซื้ออะไรซักอย่างจากร้านโดเรมีเสมอ ตอนจะไปเรียนต่อก็ยังไปบอกป้า “น่าอิจฉานะ คงได้ดูคอนเสิร์ตดีๆ เยอะเลย” อีกครั้งทีคำพูดของป้าทำให้ผมแวะกลับไปที่ร้านโดเรมีอีกครั้งเมื่อกลับมาเยี่ยมบ้าน จนเมื่อเรียนจบกลับมาแล้วก็ต้องไปยืนเล่าเรื่องคอนเสิร์ตต่างๆ ที่ได้ดูตอนเรียนอยู่อังกฤษให้แกฟัง ทุกครั้งที่ผมกลับเข้าไปยืนในร้านโดเรมีจะรู้สึกเหมือนเวลาหยุดลงตอนที่ตัวเองยังอายุ 18 ปี และมีความกระตือรือล้นในการหาเพลงใหม่ๆ (หรือขุดเพลงเก่าๆ) ฟังอยู่

2008-11-28 at 18-37-15

แต่ความจริงทุกอย่างก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา เมื่อยอดขาย CD เริ่มตกลงพร้อมกับการมาของ mp3 และ digital download สวนทางกับค่าเช่าของร้านที่ทำเลดีนี้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ร้านโดเรมีปิดตัวลงไปช่วงหนึ่ง ก่อนจะกลับมาเปิดอีกครั้งโดยย้ายที่ตั้งไปอยู่ใกล้กับร้านจุฑารสจนถึงปัจจุบันนี้ นับๆ ดู ผมผูกพันกับร้านโดเรมีมาร่วม 15 ปีแล้ว นานกว่าเพื่อนส่วนใหญ่ที่ยังคบหาและพบเจอกันเป็นประจำในช่วงนี้ด้วยซ้ำ จำได้ว่ามีพี่ท่านหนึ่งที่รู้จักกัน แกอายุมากกว่าผมประมาณ 10 ปี เคยเล่าให้ฟังว่าซื้อเทปกับป้าโดเรมีมาตั้งแต่สมัยแกยังเรียนจุฬาฯ สรุปว่า ร้านโดเรมีอยู่คู่สยามสแควร์มาอย่างน้อยก็ยี่สิบกว่าปี เชื่อว่าคงมีอีกหลายคนที่มีชีวิตช่วงวัยรุ่นผูกพันกับร้านโดเรมี ไม่แน่… ผมอาจจะเคยเจอคุณผู้อ่านในร้านโดเรมีมาก่อนก็ได้

ทุกวันนี้เพลงบางแผ่นที่ซื้อจากโดเรมีถูกแปลงมาอยู่บน iPod แล้ว บ่อยครั้งที่อดีตเพลงโปรดที่ไม่ได้ฟังมานานหลายปีก็ถูกสุ่มขึ้นมาโดยบังเอิญ ภาพชีวิตในช่วงนั้นๆ ก็จะสว่างวาบกลับมาโดยมีเสียงเพลงแห่งยุคสมัยเป็น soundtrack มีหลายฉากเหลือเกินที่สวยงามได้เพราะเสียงเพลงจากร้านโดเรมี

“ร้านอื่นๆ ที่เคยฟู่ฟ่าสมัยก่อนก็เลิกไปหมดแล้วนะครับ มีแต่โดเรมีที่ยังอยู่”

“ก็คนอื่นเขามีทางเลือกอื่น ไปทำอย่างอื่นที่มันดีกว่านี้แล้วสิ”

“ลูกสาวป้าเรียนจบปีนี้ใช่ไหมครับ?”

“ใช่ค่ะ พรุ่งนี้จะปิดร้าน ไปงานรับปริญญาของลูก”

“ไม่เอาโปสเตอร์แล้วเหรอ ไม่ใช่เด็กวัยรุ่นแล้วสินะ”

“วันนี้จะฟังอะไรดีคะ”

ฯลฯ

ถึงวันนี้ ผมยังจำได้ว่าเข้าร้านเทปครั้งสุดท้ายเมื่อวันพฤหัสที่แล้ว ที่ร้านโดเรมีนี้เอง เพื่อซื้อแผ่น soundtrack ภาพยนตร์เรื่อง Slumdog Millionaire

15 Responses to “โดเรมี”

  1. เป็นคำถามที่ถามง่าย..ตอบยากมากคะ…เคยเข้าไปแต่ก็แค่เข้าไปดู…

    งืมๆ โดยมากจะได้เพลงมาจากคนรู้จักทั้งนั้น….

  2. ตาโอ Says:

    March 17th, 2009 at 10:13

    เคยเดินผ่านร้านตรงสะพานแต่จำไม่ได้เคยแวะเข้าไปอุดหนุนหรือเปล่า
    พูดถึงร้านนี้แล้วนึกถึงอีกร้านนึงที่พันทิพย์

    ขอบคุณที่ช่วยแนะนำเรื่องโปรแกรม lightroom หัดทำหัดปรับอยู่ครับ

  3. สวัสดีครับ…

    ผมก็เป็นอีกคนที่ประทับใจคุณป้าร้านโดเรมีมาก… คิดว่าคงจะเป็นกันทุกคนที่ประหลาดใจกับความรอบรู้ในเรื่องเพลงของคุณป้าท่าน… เข้าร้านโดเรมีครั้งแรกก็สมัยอยู่มัธยมเหมือนกันครับ แล้วก็ห่างหายไปเพราะสามย่่าน สมัยเีรียนจุฬาฯเหมือนกัน ฮ่า ฮ่า… เป็นที่น่าเสียดายเหมือนกัน ที่ทุกวันนี้หลายๆ คนหันเหไปทาง mp3 ที่หาฟรีๆ กันได้ง่ายมากขึ้น แต่ไม่เลือกที่จะรับรู้ถึงคุณภาพของเสียงที่ได้จาก CD … จริงๆ ผมก็เคยหลุดไปช่วงหนึ่งเหมือนกัน แต่ก็ต้องกลับมายอมเสียเงินเพื่อแลกกับคุณภาพ และความไพเราะที่มากกว่ากันเยอะ… mp3 ที่มีใน iPod และ laptop จึงถูก convert มาจาก CD ที่ซื้อทั้งนั้น… ไม่แน่… สักวันหนึ่ง ผมอาจจะมีโอกาสได้เจอคุณวีร์ที่ร้านโดเรมีนี้ก็ได้นะครับ…

    champwy from freemac.net

    ป.ล. ซื้อ CD ครั้งสุดท้ายที่ B2S เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วได้ เป็นแผ่นอัลบั้ม Our Favorite Pop ของ Paris Match ครับ

  4. Macnesium Says:

    March 17th, 2009 at 20:18

    เออ…..เอนะเจอคำถามนี้เข้า
    ทำเอางานเข้าเหมือนกันนะ นั่งนึกตั้งนานว่าเมื่อไหร่ ของใคร

    จำลางๆได้ว่า อัศนีย์ วสันต์ ซัก 10 ปีก่อนนะ

  5. เคยตั้งคำถามกับตัวเองเหมือนกันครับ
    เมื่อก่อน การไปเดินดูเทป ซีดี เป็นงานอดิเรกเลยครับ
    สำรวจหางานใหม่มาฟัง เดี๋ยวนี้ยอมรับว่าพฤติกรรมเปลี่ยนไป เพราะหาข้อมูลได้ง่ายและเร็วขึ้น แถมของฟรีก็มี..

    ส่วนใหญ่ที่เข้าร้านตอนนี้ จะซื้อ ดีวีดีมากกว่า พวกคอนเสิร์ต ประมาณนั้น

    ส่วนร้านที่เคยอุดหนุน
    สมัยมัธยม ร้านอร่อยหู (สำโรง) ซื้อตั้งแต่เทปผี พวก Peacock ส่วนใหญ่เป็นเพลงสากล Heavy Metal
    ช่วงทำงานก็เข้าร้าน CAP ซีคอนฯ
    แล้วก็มีร้าน JU พันทิพย์ หาของง่าย เค้ารวมไว้ให้เราเลือกดูได้ดีครับ

    ตอนนี้ตั้งใจว่าจะหันมาซื้อ CD บ้างครับ

  6. ไปครั้งแรกตอนสมัยเรียน ร้านป้าก็อยู่ตรงถนนใหญ่แล้วแฮะ
    ร้านป้านี่พยายามไม่เข้าบ่อย เข้าแล้วเสียตังเกือบทุกครั้ง T-T
    ส่วนใหญ่ที่เสียเงินที่ร้านป้า มักจะเป็นแผ่นที่ไม่มีขายที่ร้านอื่น เช่นแผ่นจากยุโรป และราคามักจะโหดร้ายครับ แต่ก็ยังถูกกว่าสั่งเองทางอินเทอร์เน็ต ที่นอกจากค่าส่งแพงแล้วยังอาจจะโดนภาษีอีกระลอก

  7. ซีต้าร์ Says:

    September 18th, 2009 at 23:02

    ชอบที่คุณวีร์เขียนจังเลยค่ะ อ่านแล้วเห็นภาพ
    รู้สึกได้เลย ^^

  8. AdenArine Says:

    November 5th, 2009 at 15:31

    ตามหาอยู่เลย นึกว่าแกหายไปแล้วซะอีก เด๋วตามไปอุดหนุนแน่ ๆ

  9. ปกติผมไปร้านเจ้จูมากกว่าครับ ชอบเจ้จูคุยสนุกดี ไปสั่งแผ่นบ่อยๆ

  10. พึ่งไปมาเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2554 ได้มา 2 แผ่นของ Tame Impala-Innerspeaker กับ Florence + the Machine- Ceremonials ที่ร้านป้าโด เจ๋งครับ

  11. คุณ prawydh ครับ ร้านโดเรมี ยังอยู่ที่เดิมในเวิ้งจุฑารส รึเปล่าครับ? ไปเดือนที่แล้ว ไม่เห็นร้านป้าแกแล้ว…หรือแกย้ายไปที่ใหม่ครับ?

  12. เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2554 ยังอยู่ที่เดิมครับ มีการแซวผมด้วยว่า “หนาวอย่างนี้เดินเที่ยวคนเดียวไม่เหงาเหรอ” 🙂

  13. อยากได้ซีดีเพลงเก่าๆของ ปาน ธนพร ค่ะพอจะมีมั้ยคะถ้ามีช่วยติดต่อมาที่เมลล์นี้ด้วยนะคะ pp.pat_ja@hotmail.com. ขอบคุณมากค่ะ

  14. เพิ่งมาเปิดเจอ รู้สึกเหมือนกัน ทุกครั้งที่ไปร้านนี้เหมือนเรื่องราวในวัย14-15ย้อนกลับมาเป็นฉากๆ พอๆกับเวลาที่ได้ยินเพลงเก่ายุค 60,70,80,90 จำได้ว่าฟังตามพี่ชาย พี่สาว แม้กระทั่งตอนอยู่ม.4 ก็มัวแต่รอโทรไปตอบปัญหาของคุณวาสนา วีรชาติพลี ไนท์สปอตจนไม่เป็นอันเรียน แปลกที่ยังชอบฟังเพลง และดูคอนเสิร์ท เหมือนตอนยังเป็นวัยรุ่นอยู่เลย

  15. สวัสดีค่ะ คือหนูไม่รู้จะอธิบายหรือแนะนำตัวไปทำไมถ้าอาจโพสแล้วก็ไม่มีใครตอบกลับมา หนูดูในเว็บไซต์เพื่อที่ต้องการจะหาซื้ออลับบั้มวงพอสทั้งหมดตั้งแต่ปี39 พี่โจ้เสียตอน 45 พ ศนั้นหนู พึ่ง 6 ขวบคงไม่ต้องสงสัยนะคะว่าทำไมหนูพึ่งจะมารู้จักและฟังก็ตอนที่พี่โจ้เสียไปหลายปีและวงพอสก็เป็นแค่ตำนานให้จดจำ สรุปสั้นๆคือ ดิ้นรนที่อยากจะได้อัลบั้มของพอสมานานแล้วถ้าที่ไหนมีรบกวนฝากบอกหน่อยได้มั้ยค่ะ 0906230156 แล้วสถานที่นั้นอยู่ตรงไหนอย่างไร ถ้าไม่สะดวกโทรhttp://m.facebook.com/?_rdr ลิ้งเฟสบุ๊คค่ะรบกวนจริงๆขอบพระคุณมากๆนะค่ะ

Leave a Reply

You must be logged in to post a comment.