Monday, April 27th, 2009

จากประโยคที่เราได้ยินกันบ่อยๆ ว่า “งานออกแบบไม่ใช่เรื่องไกลตัว”, ผมไปสังเกตเห็นหลักฐานจากแผงขายน้ำที่เดินผ่านขณะมาทำงาน พบว่าเจ้าของแผงได้ใช้การออกแบบช่วยในการนำเสนอข้อมูลราคาเครื่องดื่มบนป้ายชิ้นนี้
จะเห็นว่า ตัวอักษรชื่อเครื่องดื่มและราคา ถูกวางอยู่บนพื้นสีที่สอดคล้องกับสีของตัวเครื่องดื่ม และสีของไอศกรีม เช่น น้ำสับปะรดใช้พื้นสีเหลือง, นมสดสีขาว, สตรอเบอรี่สีชมพู, ชาเขียวสีเขียว, ชาเขียวนมที่อยู่ข้างกัน ใช้สีเขียวที่อ่อนลงมา, โกโก้ใช้สีน้ำตาลที่อ่อนกว่าโอเลี้ยงกับชาดำเย็น เป็นต้น (แต่มีแอบพลาดที่น้ำเขียวโซดาเป็นสีแดง)
ทั้งหมดนี้เจ้าของแผงอาจจะทำลงไปโดยไม่ได้คิดว่านี่คือการออกแบบเลยก็ได้ เพราะการเลือกใช้สีตามสินค้าเหล่านี้ย่อมอยู่ในสามัญสำนึก แต่จุดนี้นั่นเองที่ทำให้ผู้เลือกซื้อมองเห็นราคาของเครื่องดื่ม, ไอศกรีม ที่ตัวเองต้องการได้เร็วกว่าป้ายที่เป็นรายการเฉยๆ ซึ่งป้ายนี้จะมีประโยชน์กว่านี้มาก ถ้าสินค้าแต่ละรายการมีราคาไม่เท่ากัน
อย่างน้อยความตั้งใจที่จะหาสติกเกอร์สีต่างๆ หลากหลายขนาดนี้มาเป็นพื้นหลังก็แสดงให้เห็นว่างานนี้ไม่ได้ทำขึ้นมามั่วๆ แน่นอน
Tags: design, Thailand
Posted in design | No Comments »
Sunday, March 29th, 2009
เมื่อเย็นวันศุกร์ที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสนั่งคุยกับ Kelvin Wong หรือ “พี่เคล” นักออกแบบกราฟิกรุ่นพี่รู้จักกันมานานหลายปีแล้ว และเคยได้ร่วมงานกันมาสองสามหน เพื่ออัดเสียงเป็นตอนที่สองของรายการ podcast ที่กำลังจัดทำอยู่ โดยนั่งคุยเป็นกลุ่มสามคนที่มีปิยพงศ์ ภูมิจิตร (อุ้ม) จาก art4d ร่วมด้วย ความตั้งใจคือ อยากจะคุยกับผู้ร่วมสนทนาครั้งแรกในกลุ่มที่เล็กลง เพื่อให้ได้ความเห็นจากแต่ละคนชัดเจนมากขึ้น

ในเวลาสั้นๆ ที่ได้คุยกันจริงจังนี้ทำให้รู้จักกับพี่เคลมากขึ้น และได้ข้อคิดที่เป็นประโยชน์มาหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการเรียน, การทำงาน รวมถึงการตั้งเป้าหมายในวิชาชีพ
อีกไม่นานนี้คงได้เวลาเปิดตัว podcast รายการใหม่นี้ เช่นเคย ใครอยากเอาไปฟังก่อนเพื่อติชม แจ้งมาได้เลยครับ
ชมภาพเพิ่มเติม
Tags: design, designer, kelvin wong, podcast
Posted in design activity | 3 Comments »
Saturday, March 28th, 2009

บทสัมภาษณ์ Mark Farrow ชิ้นนี้ ถูกตีพิมพ์ในนิตยสาร art4d ฉบับประจำเดือนมีนาคม พ.ศ. 2552
WV: ช่วยเล่าประวัติของคุณให้เรารู้หน่อยสิ
MF: ผมเกิดที่แมนเชสเตอร์ตั้งแต่จำความได้ก็อยากเป็นกราฟิกดีไซเนอร์มาตลอดโดยเฉพาะอย่างยิ่งผมอยากออกแบบกราฟิกสำหรับวงการเพลงและก็โชคดีที่ตอนนั้นค่ายเพลงชื่อ FactoryRecords เพิ่งเริ่มต้นขึ้นนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของงานออกแบบสำหรับวงการเพลงของผมเพราะตอนนั้นผมอยู่แมนเชสเตอร์ก็เลยไม่มีทางอื่นมากนักที่คุณจะได้ทำงานออกแบบหรอกหลังจากนั้นผมก็รวบรวมพอร์ตโฟลิโอที่ผมทำงานให้กับแฟคตอรี่เรคคอร์ดแล้วก็ย้ายมาลอนดอนและได้เริ่มงานกับ Pet Shop Boys เลยทำให้ผมมพอร์ตโฟลิโอที่ดีหลังจากนั้นบริษัทที่ผมทำอยู่ก็เริ่มอยู่ตัวผมก็เลยเปิดบริษัทของตัวเองก็ประมาณช่วงเวลานั้นหละ
WV: มันฟังดูง่ายกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริงใช่ไหม
MF: ใช่สิมันเป็นการอธิบายอย่างง่ายๆและตรงไปตรงมาเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมันซับซ้อนกว่านั้นมาก
WV: ผมว่าคนส่วนใหญ่จะจดจำผลงานของคุณได้จากงานออกแบบในวงการเพลง
MF: ใช่
WV: รวมถึงพวกเราด้วยแต่เราก็เห็นว่างานออกแบบอื่นๆของคุณก็น่าสนใจเช่นกันคุณคิดไหมว่าทำไมคนถึงจดจำคุณได้จากผลงานออกแบบให้กับวงการเพลงทำไมงานเหล่านั้นถึงโดดเด่นกว่าผลงานอื่นของคุณ
MF: ผมคิดว่าผมมีชื่อเสียงขึ้นมาได้จากการออกแบบปกซีดีเหล่านั้นผลงานออกแบบของเราได้รางวัลและได้ตีพิมพ์มากมายแต่ผมก็ยังรู้สึกว่าพวกเราใช้วิธีคิดเดียวกันกับการออกแบบปกซีดี เวลาออกแบบแกลเลอรี่ในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์หรือบรรจุภัณฑ์ให้กับลีวายส์ไม่ว่างานออกแบบอะไรก็ตามพวกเรามักจะใช้วิธีคิดและวิธีการทำงานแบบนั้นผมคิดว่ามันน่าจะเป็นเพราะงานเพลงง่ายต่อการเผยแพร่และการทำให้คนเห็นในทางกลับกันมันไม่มีเหตุผลที่จะเอาป้ายยี่ห้อลีวายส์หรืออะไรทำนองนั้นออกมาโชว์ผมว่านั่นคือเหตุผลพวกเราทำงานหลายๆอย่างมากขึ้นเรื่อยๆผมชอบนะผมชอบทำงานที่หลากหลาย
WV: แต่งานที่คุณชอบทำมากที่สุดยังคงเป็นงานออกแบบปกซีดีใช่มั๊ยถ้าเทียบกับงานออกแบบภาพลักษณ์หรืองานออกแบบหนังสือ
MF: ไม่ผมไม่คิดอย่างนั้นผมชอบออกแบบปกซีดีเฉพาะตอนที่ได้ทำงานออกแบบที่ดีแต่ตอนนี้ในวงการเพลงการจะทำงานออกแบบให้ดีได้นั้นเป็นเรื่องอยากแล้วล่ะถ้าเทียบกับเมื่อก่อน
WV: งบประมาณน้อยลงเรื่อยๆและตอนนี้ก็ไม่มีใครซื้อซีดีกันอีกแล้ว…MF: ใช่จริงๆแล้วมันก็รวมๆกันแหละทั้งงบประมาณที่ต่ำลงเดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่มักใช้การตลาดนำเพลงมากกว่าเดิมและที่เห็นได้ชัดคือตอนนี้เพลงส่วนใหญ่ใช้วิธีขายออนไลน์กันหมด สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดส่งผลกระทบต่อการออกแบบของคุณมากดังนั้นตอนนี้พวกเราเลยค่อนข้างที่จะรับงานที่ทำให้วงการเพลงเฉพาะที่พวกเรารู้สึกว่าเราสามารถทำอะไรที่พิเศษได้เท่านั้น
WV: งานออกแบบปกซีดีส่วนใหญ่ของคุณก็มาจากลูกค้าเก่าๆทั้งนั้นเลยสิ
MF: ใช่ผมทำงานกับลูกค้าแต่ละรายนานมากลูกค้าส่วนใหญ่ก็มีชื่อเสียงมายาวนานผมค่อนข้างจะมีความสัมพันธ์ด้านการงานที่ยืนยาวกับคนที่ผมทำงานด้วย
(more…)
Tags: art4d, design, designer, interview, Mark Farrow
Posted in article | No Comments »
Thursday, March 19th, 2009
เมื่อวันที่ 17-18 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเป็นวิทยากรใน workshop เรื่องกราฟิกดีไซน์สำหรับสื่อสิ่งพิมพ์ สำหรับโครงการ คิดดี โปรเจกต์ โดย สสส. ร่วมกับ art4d จัดขึ้น (ผมเข้าร่วมในนามของ art4d)
กลุ่มเด็กที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ มีตั้งแต่เด็กม. 4 จนถึงนักศึกษามหาวิทยาลัยปีต้นๆ สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ แม้ส่วนใหญ่จะไม่ได้รับการศึกษาด้านการออกแบบมาโดยตรง แต่มีความสนใจและตั้งใจทำงานมากกว่านักศึกษาด้านการออกแบบบางกลุ่มเสียอีก งานนี้วิทยากรทั้งสามคน คือ คุณมงคล พงศ์อนุตรี, คุณปิยพงศ์ ภูมิจิตร จาก art4d และตัวผมเอง เห็นพ้องต้องกันว่าผลงานออกมาดีอย่างน่าประหลาดใจ นอกจากนั้นยังมีเด็กม.ปลายบางคนที่มีแนวความคิดแหวกๆ และมีเซนส์ทางการจัดองค์ประกอบดีอย่างไม่น่าเชื่อ
ส่วนตัวแล้วรู้สึกดีไปกับเด็กๆ ที่มีโอกาส และยินดีที่มีส่วนได้ช่วยให้ความรู้แก่เยาวชนอีกช่องทางหนึ่ง นอกเหนือจากงานสอนหนังสือตามมหาวิทยาลัย ทั้งนี้อยากให้สสส. หันมาเน้นการจัดกิจกรรมแบบนี้มากขึ้น เพื่อให้ได้ประโยชน์แก่กลุ่มเยาวชนโดยตรง น่าจะเห็นผลชัดเจนกว่าการทุ่มงบโฆษณารณรงค์รงค์เรื่องต่างๆ ในวงกว้าง
ชมภาพเพิ่มเติม 17/3, 18/3
Tags: art4d, design, workshop
Posted in design activity | No Comments »
Thursday, March 19th, 2009
ใครอยากฟังเพื่อเสนอแนะ ยกมือขึ้น!

ขณะนี้ผมกำลังมีโครงการจัดทำ podcast รายการใหม่ ที่นำเอานักออกแบบหลากสาขามานั่งคุยกันในเรื่องเกี่ยวกับงานออกแบบที่เกี่ยวข้องกับสังคมและชีวิตประจำวัน เมื่อรูปแบบ, เนื้อหา และตัวเว็บ เสร็จเรียบร้อยพร้อมเผยแพร่แล้วจะกลับมาแจ้งข่าวอีกครั้ง
คลิปแรกที่ทดลองอัดเสียงมีนักออกแบบต่างสาขา ได้แก่ กราฟิก, สถาปัตย์ และออกแบบอุตสาหกรรม มานั่งคุยกันรวม 7 คน ในหัวข้อเกี่ยวกับการศึกษาด้านการออกแบบในประเทศไทย ใครอยากเอาไปทดลองฟังแจ้งมาได้เลยนะครับ ยินดีรับฟังทุกข้อเสนอแนะครับ
ภาพบรรยากาศการสนทนา
Tags: design, designer, podcast
Posted in design activity | 7 Comments »
Friday, January 16th, 2009

ตอนนี้ไม่มีภาพยนตร์เรื่องไหนทำให้ตั้งหน้าตั้งตารอดูได้เท่ากับ Watchmen ภาพยนตร์ที่สร้างจากผลงานนิยายภาพ (graphic novel) โดย Alan Moore และ Dave Gibbons หากใครยังไม่เคยรู้จัก Watchmen มาก่อน แล้วถามว่าเรื่องนี้น่าดูกว่าหนัง superhero เรื่องอื่นๆ ที่ขยันออกกันมามากมายในช่วง 4-5 ปีหลังนี้อย่างไร ขออธิบายสั้นๆ ว่า “ฮีโร่ทุกคนต้องมีปม เหมือน Batman Begins หรือ The Dark Knight นั่นแหละ… แล้วปมของฮีโร่ 6 คนนั้นมาทำให้ฮีโร่ต้องมาฆ่ากันเอง… โดยมีเหตุผลพื้นฐานคือ เพื่อความสงบสุขของโลก” ถ้าแค่นั้นยังไม่พอ ขอบอกอีกว่าผู้กำกับคือ Zack Snyder จากเรื่อง 300 – เริ่มอยากดูขึ้นหรือยังครับ?
ในที่นี้จะไม่พูดถึงตัวเนื้อเรื่อง หรือเรื่องการออกแบบต่างๆ ในหนัง แม้ว่าจะมีเรื่องให้คิดให้ดูมากมายก็ตาม (เอาไว้เขียนวันหลังถ้ามีเวลา) แต่จะขอมองไปที่ตัวเล่มหนังสือเท่าและวิธีการนำเสนอในสื่อนิยายภาพเท่านั้น
(more…)
Tags: comics, design, graphic novel, Special Edition, superhero, watchmen
Posted in comics, design | 2 Comments »
Wednesday, January 7th, 2009

ไม่นานนี้ได้ทำงานออกแบบหนังสือชุดหนึ่งให้ UNESCO กรุงเทพฯ และหนังสือเล่มหนึ่งในชุดนั้นได้ถูกแปลเป็นภาษาลาว ผลคือหนังสือทั้งเล่มถูกขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้น ด้วยเหตุผลว่า “ทางดีไซเนอร์ฝั่งลาวเห็นว่า ตัวอักษรภาษาลาวไม่ควรมีขนาดเล็ก เพราะจะอ่านยาก” และเพื่อให้คงการจัดหน้าแบบเดิมไว้ให้ได้มากที่สุด เรื่องนี้ชวนให้กลับมาคิดต่อว่า “แล้วแนวคิดนี้ถูกต้องสำหรับภาษาไทยหรือไม่?” จึงขอบันทึกข้อสังเกตและความเห็นส่วนตัวต่อกรณีนี้ไว้ตรงนี้
นี่เป็นภาพเปรียบเทียบหน้าต่างๆ จากหนังสือทั้งสองเล่มที่มีการจัดหน้าเหมือนกันเกือบทั้งหมด สังเกตภาพที่ 3 ที่แม้แต่ในฉบับภาษาอังกฤษยังต้องย่อขนาดตัวอักษรลงจนเล็กกว่าปกติ ถ้าให้ภาษาลาวตัวเล็กเท่านี้คงลำบาก




ใครเคยได้เห็นตัวอักษรภาษาลาวและภาษาเขมรมาบ้างจะทราบว่า ทัั้งสามภาษาคือไทย-ลาว-เขมร ล้วนมีที่มาจากภาษาขอม จึงไม่แปลกที่จะมีความคล้ายคลึงกัน ทั้งการอ่าน การเขียน คำศัพท์ และรูปร่างของตัวอักษร ดังนั้น เป็นไปได้หรือไม่ที่ภาษาไทยก็ควรจะถูกพิมพ์ด้วยขนาดตัวอักษรที่ใหญ่กว่าภาษาอังกฤษเช่นเดียวกัน?
(more…)
Tags: design, typography
Posted in design | 2 Comments »
Thursday, December 18th, 2008
ถ้าพูดถึงป้ายสัญลักษณ์ห้องน้ำ ทุกคนคงหลับตาเห็นภาพเดียวกัน ภาพคนชาย-หญิงหัวกลมรูปร่างตามมาตรฐานสากลที่ไม่ได้สื่อความหมายใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมปลดทุกข์ ใครอยากทำป้ายห้องน้ำสามารถเดินไปที่แผนกเครื่องเขียนตามห้างสรรพสินค้า แล้วซื้อป้ายสติกเกอร์สัญลักษณ์ชาย-หญิงดังกล่าวที่วางอยู่รวมกับข้อความสามัญประจำอาคารสถานที่ เช่น “ปิดเบาๆ” หรือ “ห้ามสูบบุหรี่”

แต่ในบางสถานที่ เรากลับเห็นสัญลักษณ์อื่นๆ ที่สื่อถึงความเป็นชาย-หญิง มาทำหน้าที่แทนสัญลักษณ์ห้องน้ำ รูปแบบที่ว่านี้อาจจะแตกต่างกันไปตามบริบททางวัฒนธรรม เช่น ชาย-หญิงนั้นแต่งชุดประจำชาติ หรือแต่งกายตามสมัยนิยม บ้างก็ใช้สัญลักษณ์ภาพของของใช้ที่เฉพาะเจาะจงเพศ บางแห่งหลังจากระบุเพศแล้วยังแจกแจงสัญลักษณ์ไปตามลักษณะการขับถ่าย ว่าเป็นยืนถ่าย, นั่งถ่าย หรือยองถ่าย ก็คงเหมือนกับงานออกแบบในชีวิตประจำวันทุกชนิด การนำเสนอป้ายห้องน้ำนั้นจะยาก-ง่ายเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับความใส่ใจของบุคคลที่รับผิดชอบ
(more…)
Tags: design, signage
Posted in design | No Comments »
Saturday, January 12th, 2008
ปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว มีเพื่อนบอกมาทาง MSN ให้ไปหาซื้อนิตยสาร OOM ฉบับล่าสุดมาดู เปิดมาในช่วง another design award ทำให้พบกับหน้านี้…

ข้อความข้างล่างเขียนว่า…
สัญลักษณ์ของธนาคารในอดีต มาจากตราสำคัญประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นรูปปราสาทสังข์มีลวดลายอันวิจิตรพร้อมชื่อธนาคารกำกับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นรูปลายเส้นยอดปราสาท 3 ยอดในพื้นที่วงกลมสีเหลือง ส่วนประกอบตอนล่างเป็นฐานแสดงความมั่นคง ตอนบนเป็นลำแสงแสดงความรุ่งโรจน์ ด้วยการรวมพลังความคิด ความรู้และความสามารถ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น อันเป็นเป้าหมายเพื่อก้าวไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและการให้บริการที่มีคุณภาพโลโก้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ถือเป็นการดีไซน์ที่ประสบความสำเร็จที่สุด ในหมวดหมู่ของธุรกิจการเงิน สามารถเปลี่ยนภาพลักษณ์เก่าๆ จากผู้ชายอายุ 50 กว่าๆ มาเป็นหนุ่มนักธุรกิจไฟแรงหัวสมัยใหม่ ที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนและน่าเชื่อถือได้ในพริบตา ตัวสัญญลักษณ์เองก็มีมวลที่ดี ง่ายต่อการมองเห็นและจดจำ ปลายแหลมของตัวสัญญลักษณ์ รับกับปลายแหลมของตัวอักษร ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาได้อย่างปราณีตลงตัว สีที่ใช้ก็ตอกย้ำความเป็นไทยแบบไม่โบราณ สว่างสดใสและน่าเชื่อถือ… สวยจริงๆ – วรทิตย์ เครือวาณิชกิจ
ตราสัญลักษณ์ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้รับรางวัล another design awardไม่ได้รู้สึกเป็นเกียรติอะไรเลย แต่รู้สึกอย่างเดียวว่าชื่นใจ! อ่านแล้วน้ำตาคลอ อยากกลับมามีความสุขในการทำงานและได้สร้างอะไรที่ตัวเองมีความสุขกับทั้ง process และ end product อย่างนี้อีกครั้ง ข้อความที่เขียนชมกันราวกับเป็นหน้าม้านี้เพิ่มกำลังใจในการตั้งใจกลับมาประกอบอาชีพนักออกแบบได้อย่างมหาศาล
ขอขอบคุณ G49 สำหรับโอกาสในการสร้างสรรค์งานชิ้นนี้
Tags: design, identity, logo, press
Posted in design, random thoughts | No Comments »