คนขับแท็กซี่อายุ 82 ปี

slogan

ไม่ได้เขียนอะไรบนนี้มานานมาก เพราะภาระหน้าที่ส่วนตัวหลายอย่าง แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดคืออาการป่วยของคุณพ่อที่ทำให้ต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่ได้เดือนกว่าแล้ว ในระหว่างนี้ก็ได้พบกับผู้คนหลากหลาย และได้เรียนรู้บางแง่มุมเกี่ยวกับชีวิตคนแบบที่ไม่เคยคิดมาก่อน ซึ่งอาจจะทะยอยมาเล่าให้ฟังบนนี้บ้างในภายหลัง

เริ่มเรื่องแรกกันดีกว่า…

วันหนึ่ง ผมต้องเดินทางออกจากโรงพยาบาลไปทำธุระที่อื่นโดยแท็กซี่ แวบแรกที่กระโดดขึ้นรถแล้วหันไปบอกคนขับถึงที่หมาย ผมสะดุดตากับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยับย่นของคุณคนขับ เขาดูแก่เกินกว่าที่จะมาขับแท็กซี่ แต่สิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจยิ่งกว่าคือเสียงดังฟังชัดอันสดใสของเขาที่พูดถามมาก่อนที่ผมจะได้เอ่ยปากว่า “จะไปไหนครับท่าน?” ผมอมยิ้มเพราะไม่มีใครเรียกผมว่าท่านมาก่อน

หลังจากออกรถ บทสนทนาของเราเริ่มขึ้น

ลุง : “ท่านมาเข้าโรงพยาบาลนี่ป่วยเป็นอะไรหรือครับ”

ผม : “ผมไม่ได้ป่วยหรอกครับ แต่คุณพ่อผมเข้าโรงพยาบาลมาได้เดือนนึงแล้ว”

คุณลุง (หรือถ้าจะให้ถูก อาจต้องเรียกว่าคุณปู่) คนขับแท็กซี่คนนี้ดูกระฉับกระเฉงและอารมณ์ดีมาก ผมอดไม่ได้ที่จะถาม

ผม : “ขอโทษนะครับ ลุงอายุเท่าไหร่แล้วครับ”

ลุง : “แปดสิบสองปีแล้วครับ”

ผม : “โห… ยังดูแข็งแรงนะครับ?”

ลุง : “ไม่แข็งแรงหรอกครับ กำลังป่วยอยู่”

ด้วยความสนใจ ผมเริ่มฟังเรื่องเล่าของลุง แกบอกว่าแกป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง เคยคิดอยากจะปล่อยให้ตัวเองตายไป เพราะลูกหลานก็ไม่มี เมียก็ตายไปแล้ว แต่ด้วยความที่เคยรับใช้คุณหมอคนหนึ่งมาในอดีต คุณหมอคนนั้นจึงช่วยเหลือโดยใช้คอนเนคชั่นลดค่ายาให้ ตอนนี้ลุงต้องเก็บเงินเพื่อฉีดยาให้ครบ 9 เข็ม เข็มละ 3,000 บาท ตอนนี้ฉีดมาได้ 8 เข็มแล้ว เหลือเข็มสุดท้าย แล้วแกก็จะเลิกขับรถ กลับไปอยู่บ้านนอก ปัญหาคือ ถ้าไม่สามารถหาเงินมาฉีดเข็มสุดท้ายนี้ได้ทัน ที่ฉีดมา 8 เข็มก่อนหน้านี้ก็จะสูญเปล่า

3,000 x 9 = 27,000 บาท เงินจำนวนนี้ผมสามารถทำงานหามาได้ในเวลาไม่นานนัก แต่สำหรับลุง ไม่รู้ว่าต้องใช้ความพยายามแค่ไหน ไหนจะต้องต่อสู้กับอาการป่วยของตัวเอง, ความชรา และงานที่ไม่เป็นมิตรกับกระดูกสันหลัง

ลุง : “แล้วอาการคุณพ่อของท่านเป็นอย่างไรแล้วครับ?”

ผม : “ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ นะครับ เหลือแต่จิตใจที่ต้องเข้มแข็ง ตอนนี้ท่านยังทำใจไม่ได้ที่ตัวเองต้องกลายเป็นคนป่วย”

ลุง : “ท่านโชคดีนะครับที่มีเงินมากกว่าผม ยังไงพ่อเราทั้งคน เท่าไหร่ก็ยอมจ่ายใช่ไหมล่ะครับ”

ผม : “ก็ใช่ครับ”

ลุง : “ดังนั้นถ้าเรื่องเงินไม่ต้องกังวลแล้ว เพราะท่านจ่ายได้ หาหมอดีๆ เข้าโรงพยาบาลดีๆ ได้ เหลือแต่เรื่องกำลังใจ ก็แปลว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่แล้วล่ะ ถ้าคนเรามีกำลังใจ อะไรก็สู้ได้ ดูอย่างผมสิครับ ผมเลือกที่จะสู้ทั้งที่ไม่มีเงิน ไม่มีลูกเมีย แต่คุณพ่อของท่านมีเงิน และมีท่านอยู่ด้วยอีกทั้งคน จะกลัวอะไร้!”

ผมนึกถึงคุณตาและคุณปู่ของตัวเองที่เสียไปหลายปีแล้ว ตอนที่ทั้งสองท่านอายุ 82 ปี ไม่น่าจะคึกคักได้เท่ากับลุงคนนี้ กลับมามองตัวเอง เรื่องที่เราว่าตัวเองกำลังลำบาก เหนื่อย ในขณะนี้ที่อายุ 31 กลายเป็นเรื่องเล็กไปในทันทีเมื่อนึกภาพตัวเองในอีก 50 ปีข้างหน้านั่งขับแท็กซี่…

เมื่อถึงที่หมาย ผมยื่นเงินให้ลุงมากกว่าตัวเลขบนมิเตอร์หลายร้อยบาท อวยพรขอให้ลุงเก็บเงินได้ทัน และเมื่อกลับมานั่งอยู่ข้างเตียงของพ่อที่กำลังซึมเศร้า ผมได้เล่าเรื่องลุงคนขับแท็กซี่ให้ท่านฟัง… ได้ผล คุณพ่อของผมมีกำลังใจดีขึ้น พลังของการคิดบวกนี่มันเจ๋งจริงๆ!

4 Responses to “คนขับแท็กซี่อายุ 82 ปี”

  1. ดีใจ ที่มีเพื่อนทำดีคิดดีแบบนี้ 🙂

  2. ได้อ่านเรื่องนี้ในจังหวะอู้งานพอดีเลยครับ
    คิดว่าเหนื่อยเลยแอบอู้ครับ
    อ่านจบเลยมา comment และกลับไปคิดงานต่อทันทีเลยครับ
    เหมือนไฟมันลุกอยู่ข้างใน ^_^

  3. ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อนะ แต่เดี๋ยวนี้มีพวกหลอกลวงเยอะ เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับTaxiมาเหมือนกัน เนื้อเรื่องไม่เหมือนกัน แต่ความแตกเพราะคนขับTaxiดันจำไม่ได้ว่าเคยเล่าให้คนนี้ฟังแล้ว (คนเดิมขึ้นTaxiคันเดิม)

  4. 6 กพ. 53 9.10 น.
    เมื่อกี้ดิฉันเพิ่งขึ้นรถของคุณลุงมา และได้ซักถามเป็นเรื่องเดียวกับคุณ แม้ระยะทางจะสั้นแต่ดิฉันก็พยายามถามจนได้ความมาบ้าง ตอนนี้อายุ 83 แล้ว แกอยู่ชุมชนคลองเตย บ้านเดิม จ.อ่างทอง ตอนนี้หาเงินฉีดยาเข็มสุดท้ายอยู่และอีก 5 วันแกจะเลิกขับรถแท็กซี่ ไปอยู่กับเพื่อนที่วัดอโศการาม บางปู จ.สมุทรปราการ ดิฉันจ่ายค่าโดยสารไป 50+1000 แล้วไปทำงาน แกร้องขอบคุณและร้องไห้ บอกว่าเหนื่อยจะกลับอู่ทันที รู้สึกสงสารคุณลุงมากๆ หาทำบุญกับคนแบบนี้ยากน๊ะรู้สึกดีใจ เสียดายแต่ว่าไม่ทราบว่าจะติดต่อคุณลุงได้ที่ไหน ดิฉันจึงรีบหาในเน็ต แต่ทั้งคุณและดิฉันก็ไม่ได้ขอเบอร์หรือที่ติดต่อท่านไว้ คิดว่าถ้ามีโอกาสไปวัดนี้จะไปหาท่าน ไม่ทราบว่าจะเจอไม๊ ถ้าใครติดต่อได้ชวยบอกหน่อย ดิฉันยินดีจะช่วยเหลือจนถึงที่สุด
    ปล.ยินดีที่ได้รู้จักกับคนมีจิตใจดีแบบคุณอีกคน

Leave a Reply

You must be logged in to post a comment.